การศึกษานอกห้องเรียน : ( 22nd
September, 2558)
การฝึกทักษะการฟัง
ปัจจุบันภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาที่สำคัญอย่างยิ่ง
ในการติดต่อสื่อสารกับคนทั่วโลก
การเรียนรู้ภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการติดต่อสื่อสารเพื่อการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม
เพื่อประกอบอาชีพ
และสามารถนำไปใช้เพื่อการพัฒนาประเทศและประชากรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบันและอนาคต
การเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้ได้ผลนั้นผู้เรียนจำเป็นต้องมีการฝึกพูด
เพื่อให้การสื่อสารภาษาอังกฤษสัมฤทธิ์ผล
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความมั่นใจและมีความต้องการพัฒนาทักษะการพูดของตนเองตามสถานการณ์หรือตัวกำหนดที่ได้รับมอบหมายได้อย่างเหมาะสม
ทักษะการพูดนับว่าเป็นทักษะหนึ่งที่จำเป็นมาก
ขอเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับการดำเนินชีวิตประจำวัน
แม่จำเป็นที่สุดในการเรียนภาษาต่างประเทศ หน้าจากการพูดเป็นการถ่ายทอดความคิด
ความเข้าใจ ความรู้สึก
ให้ผู้ฟังได้รับรู้และเข้าใจจุดหมายของผู้พูดเพื่อการสื่อสารให้ผู้ฟังเข้าใจได้ ดังนั้นดิฉันจึงจะพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยการฝึกพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่วันที่
22 - 28 กันยายน 2558
วันที่ 22
กันยายน 2558
ที่ฉันได้พัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยการฝึกการออกเสียงหนักเบาในพยางค์ (stress) เพราะการออกเสียงเน้นหนักเบาเป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับผู้พูดภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา
เพราะถ้าออกเสียงหนักผิดพยางค์ ก็อาจทำให้การสื่อสารเกิดความผิดพลาดได้
โดยฉันฝึกการออกเสียงจาก wangtongnoon.blospot.com โดยที่ฉันได้ฝึกออกเสียงหนักเบาในคำ(word
stress) ในคำที่มีฉันยังออกเสียงผิดตำแหน่งเช่นคำว่า
affirmative, philosopher, development, significant, drugstore, run out
of, suspicious, accomplish, associate, appreciate, abandonment และ
tedious จากการที่ดิฉันค่ายฝึกพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ
โดยการฝึกออกเสียงหนักเบาในคำ ( word stress) นั้นทำให้ดิฉันมีทักษะในการพูดที่ดีมากยิ่งขึ้น
เพราะปัญหาเรื่องการออกเสียงหนักเบาผิดที่นั้นเป็นปัญหาสำหรับดิฉันมาก
บางครั้งดิฉันพูดไปแล้วคนที่ฟังนั้นงงไม่เข้าใจสิ่งที่ดิฉันพูด
แต่หลังจากการฝึกการออกเสียงหนักเบาในคำแล้ว
ก็ทำให้ดิฉันมีความมั่นใจในการพูดมากขึ้น
วันที่ 24
กันยายน 2558 ที่ฉันได้พัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยการฝึกออกเสียงระดับสูงต่ำในภาษาอังกฤษ
( Intonation) ซึ่งจะไม่มีการใช้เสียงสูงต่ำเหมือนในภาษาไทย
ดิฉันได้ฝึกออกเสียงระดับสูงต่ำในภาษาอังกฤษ (Intonation) จาก
e-book.ram.edu/e-book/t/TL324(51)/TL324-5.pdf โดยดิฉันได้ฝึกออกเสียงระดับสูงต่ำในภาษาอังกฤษที่มักจะใช้ผิดกันบ่อยมาก Intonation
บอกเล่า (simple
statement) เช่น
ประโยคคําสั่ง
(Command) เช่น
ประโยคคําถามที่ขึ้นตนดวย WH – question
(Question Words)
ประโยคอุทาน
แสดงอารมณผูพูด
จากการที่ดิฉันได้ฝึกออกเสียงระดับสูงต่ำในภาษาอังกฤษ
(Intonation) ประเภท falling Intonation ที่ใช้กับประโยคบอกเล่า,
คำสั่ง ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย WH - question และประโยคอุทาน
ทำให้ดิฉันมีทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น
วันที่ 25
กันยายน 2558 ดิฉันได้พัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ โดยการฝึกออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มักจะออกเสียงผิด
จาก http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9580000011521 โดยดิฉันฝึกอ่านออกเสียงคำ
“Tuition” ที่แปลว่า “ค่าเทอม ค่าเล่าเรียน” ซึ่งส่วนใหญ่คนทั่วไปมักจะออกเสียงผิด โดยมักจะออกเสียงว่า “ทุย-ชั่น” หรือ“ ตุ๋ย-ฉัน”
ซึ่งที่ถูกต้องแล้วคำว่า“tuition” จะต้องอ่านออกเสียงว่า
“ทู-วิ-เชิน” Comfortable คนส่วนใหญ่จะเน้นเสียงผิดที่
คนไทยส่วนใหญ่จะอ่านออกเสียงตรงตัวว่า “คอม-ฟอร์ท-ทะ-เบิล”
ที่แปลว่า “สบาย” อันจริงแล้วคำนี้จะต้องออกเสียงเน้นหนักที่พยางค์แรก
ส่วนพยางค์ที่สองแทบไม่ออกเสียงเลย การออกเสียงที่ถูกต้องจึงต้องอ่านว่า “คัมฟ-ทะ-เบิล” ห้ามออกเสียง “ฟอร์ท”
โดยเด็ดขาด ออกเสียง “ฟึ่ท” สั้นๆ เบาๆ อยู่ในลำคอนิดเดียวเท่านั้น คล้ายกับคำว่า“vegetable” ที่แปลว่า “ผัก” ต้องอ่านว่า “เว็ท-ทะ-เบิล” ไม่ใช่ “เว็จ-เจ็ท-ทะ-เบิล” จากการที่ได้ฝึกการออกเสียงคำที่มักออกเสียงนั้นทำให้ดิฉันมีทักษะในการพูดที่ดีมากขึ้น
ซึ่งทำให้ดิฉันมีความมั่นใจในการพูดมากขึ้นกว่าเดิม
วันที่ 27 กันยายน 2588 ที่ฉันได้พัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ
โดยการฝึกอ่านออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มักจะออกเสียงผิด จาก http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9580000011521 โดยที่ฉันฝึกอ่านออกเสียงคำที่มักออกเสียงผิดดังนี้ “Fragile” คำนี้จะพบบ่อยในป้ายสติ๊กเกอร์ภาษาอังกฤษที่ติดไว้สำหรับสิ่งของที่
“เปราะบาง” เพื่อระวังของแตก
หักพัง ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะอ่านว่า “ฟรา-จิ้ล” อันนี้ผิดอย่างแน่นอน
การออกเสียงที่ถูกสำหรับศัพท์คำนี้ก็คือ “แฟรก-ไจล์” “Sword” ซึ่งคำนี้มักจะพบบ่อยในชื่อหนัง
หรือเกมส์ ที่มีการใช้ “ดาบ” ตัวอย่างเช่น
ภาพยนตร์เรื่อง “Shadow of the Sword" คำว่า “sword”
คนไทยหลายคนมักออกเสียงคำศัพท์นี้ผิดว่า “สะ-หวอด”
ตรงตัว แต่นั่นเป็นการออกเสียงอ่านที่ผิด ที่ถูกต้องจะต้องออกเสียง “sword”
ว่า “ซอร์ด” สั้นๆ
พยางค์เดียว ตัดเสียง “W” ออกไปก็จะได้คำอ่านที่ถูกต้อง จากการฝึกออกเสียงคำที่มักออกเสียงผิดนั้นสามารถทำให้ดิฉันสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น
วันที่ 28
กันยายน 2558
ดิฉันได้ฝึกพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยการฝึกออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มักออกเสียงผิดบ่อยจาก
https://www.gotoknow.org/posts/78049 ซึ่งได้แก่คำว่า chaos (n.) เค-อ็อส
ซึ่งคนส่วนใหญ่มักออกเสียงว่า “ชา-ออส หรือ ว่า “เช้าส์” , effect (n., v.) “อิ-เฟ็คท์”
ซึ่งคำนี้คนส่วนใหญ่มักออกเสียงว่า “เอฟเฟ็คท์”
, value (n., v.) “แฟล-ยิ่ว” ซึ่งคนส่วนใหญ่มักออกเสียงผิดไปเป็น
“แวลู่” , salmon (n.) แซ-เมิน สำหรับคนที่รักการกินซูชิจะเรียกว่า
“แซลมอน” ซึ่งเป็นการออกเสียงที่ผิด,
leopard (n.) เล็พ-เพิร์ด ซึ่งมักจะมีการออกเสียงตัวตรงว่า “ลีโอ-พ้าร์ด” ซึ่งจริงๆแล้วคำนี้ไม่ต้องออกเสียงตัว o
อ่านสั้นๆง่ายๆว่า “เล็พ-เพิร์ด”
จากการฝึกออกเสียงคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆก็ทำให้ดิฉันมีทักษะการพูดมากยิ่งขึ้น
ทักษะการพูดเป็นทักษะที่สำคัญอีกทักษะหนึ่งของการเรียนภาษา
ซึ่งในปัจจุบันภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญในการติดต่อสื่อสาร
เพื่อให้เข้าใจแนวทางเดียวกัน ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางที่ใช้กันทั่วโลก
การเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย
เพราะทักษะการพูดเป็นทักษะที่สำคัญกับการดำเนินชีวิตประจำวัน
ึ่ใช้ในการถ่ายทอดความคิดความเข้าใจและความรู้สึก ให้ผู้ฟังได้รับรู้และเข้าใจจุดมุ่งหมายของการสื่อสาร
การพูดเป็นทักษะทางภาษาที่ซับซ้อนและเกิดจากการฝึกฝนเป็นเวลานานไม่ได้เกิดจากความจำและความเข้าใจ
โดยควรมุ่งให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กัน
ดังนั้นการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้ได้ผลนั้น ผู้เรียนจำเป็นต้องมีการฝึกพูดเพื่อให้การสื่อสารภาษาอังกฤษสัมฤทธิ์ผลเพื่อให้เรียนเกิดความมั่นใจและมีความต้องการพัฒนาทักษะการพูดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น