วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การศึกษานอกห้องเรียน : ( 22nd September, 2558)





การศึกษานอกห้องเรียน : ( 22nd  September, 2558)

การฝึกทักษะการฟัง

ปัจจุบันภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาที่สำคัญอย่างยิ่ง ในการติดต่อสื่อสารกับคนทั่วโลก การเรียนรู้ภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการติดต่อสื่อสารเพื่อการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อประกอบอาชีพ และสามารถนำไปใช้เพื่อการพัฒนาประเทศและประชากรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบันและอนาคต การเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้ได้ผลนั้นผู้เรียนจำเป็นต้องมีการฝึกพูด เพื่อให้การสื่อสารภาษาอังกฤษสัมฤทธิ์ผล เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความมั่นใจและมีความต้องการพัฒนาทักษะการพูดของตนเองตามสถานการณ์หรือตัวกำหนดที่ได้รับมอบหมายได้อย่างเหมาะสม ทักษะการพูดนับว่าเป็นทักษะหนึ่งที่จำเป็นมาก ขอเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับการดำเนินชีวิตประจำวัน แม่จำเป็นที่สุดในการเรียนภาษาต่างประเทศ หน้าจากการพูดเป็นการถ่ายทอดความคิด ความเข้าใจ ความรู้สึก ให้ผู้ฟังได้รับรู้และเข้าใจจุดหมายของผู้พูดเพื่อการสื่อสารให้ผู้ฟังเข้าใจได้ ดังนั้นดิฉันจึงจะพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยการฝึกพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่วันที่ 22 - 28 กันยายน 2558
วันที่ 22 กันยายน 2558 ที่ฉันได้พัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยการฝึกการออกเสียงหนักเบาในพยางค์ (stress) เพราะการออกเสียงเน้นหนักเบาเป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับผู้พูดภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา เพราะถ้าออกเสียงหนักผิดพยางค์ ก็อาจทำให้การสื่อสารเกิดความผิดพลาดได้ โดยฉันฝึกการออกเสียงจาก wangtongnoon.blospot.com โดยที่ฉันได้ฝึกออกเสียงหนักเบาในคำ(word stress)  ในคำที่มีฉันยังออกเสียงผิดตำแหน่งเช่นคำว่า affirmative, philosopher, development, significant, drugstore, run out of, suspicious, accomplish, associate, appreciate, abandonment และ tedious  จากการที่ดิฉันค่ายฝึกพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ โดยการฝึกออกเสียงหนักเบาในคำ ( word stress) นั้นทำให้ดิฉันมีทักษะในการพูดที่ดีมากยิ่งขึ้น เพราะปัญหาเรื่องการออกเสียงหนักเบาผิดที่นั้นเป็นปัญหาสำหรับดิฉันมาก บางครั้งดิฉันพูดไปแล้วคนที่ฟังนั้นงงไม่เข้าใจสิ่งที่ดิฉันพูด แต่หลังจากการฝึกการออกเสียงหนักเบาในคำแล้ว ก็ทำให้ดิฉันมีความมั่นใจในการพูดมากขึ้น

วันที่ 24 กันยายน 2558 ที่ฉันได้พัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยการฝึกออกเสียงระดับสูงต่ำในภาษาอังกฤษ ( Intonation) ซึ่งจะไม่มีการใช้เสียงสูงต่ำเหมือนในภาษาไทย ดิฉันได้ฝึกออกเสียงระดับสูงต่ำในภาษาอังกฤษ (Intonation) จาก e-book.ram.edu/e-book/t/TL324(51)/TL324-5.pdf โดยดิฉันได้ฝึกออกเสียงระดับสูงต่ำในภาษาอังกฤษที่มักจะใช้ผิดกันบ่อยมาก Intonation
บอกเล่า (simple statement) เช่น
ประโยคคําสั่ง (Command) เช่น
ประโยคคําถามที่ขึ้นตนดวย WH – question (Question Words)
ประโยคอุทาน แสดงอารมณผูพูด

จากการที่ดิฉันได้ฝึกออกเสียงระดับสูงต่ำในภาษาอังกฤษ (Intonation) ประเภท falling Intonation ที่ใช้กับประโยคบอกเล่า, คำสั่ง ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย WH - question  และประโยคอุทาน ทำให้ดิฉันมีทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น

วันที่ 25 กันยายน 2558 ดิฉันได้พัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ โดยการฝึกออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มักจะออกเสียงผิด จาก  http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9580000011521 โดยดิฉันฝึกอ่านออกเสียงคำ “Tuition” ที่แปลว่า ค่าเทอม ค่าเล่าเรียนซึ่งส่วนใหญ่คนทั่วไปมักจะออกเสียงผิด โดยมักจะออกเสียงว่า ทุย-ชั่น หรือตุ๋ย-ฉันซึ่งที่ถูกต้องแล้วคำว่า“tuition” จะต้องอ่านออกเสียงว่า ทู-วิ-เชิน” Comfortable คนส่วนใหญ่จะเน้นเสียงผิดที่ คนไทยส่วนใหญ่จะอ่านออกเสียงตรงตัวว่า คอม-ฟอร์ท-ทะ-เบิลที่แปลว่า สบายอันจริงแล้วคำนี้จะต้องออกเสียงเน้นหนักที่พยางค์แรก ส่วนพยางค์ที่สองแทบไม่ออกเสียงเลย การออกเสียงที่ถูกต้องจึงต้องอ่านว่า คัมฟ-ทะ-เบิลห้ามออกเสียง ฟอร์ทโดยเด็ดขาด ออกเสียง ฟึ่ทสั้นๆ เบาๆ อยู่ในลำคอนิดเดียวเท่านั้น คล้ายกับคำว่า“vegetable” ที่แปลว่า ผักต้องอ่านว่า เว็ท-ทะ-เบิลไม่ใช่ เว็จ-เจ็ท-ทะ-เบิล  จากการที่ได้ฝึกการออกเสียงคำที่มักออกเสียงนั้นทำให้ดิฉันมีทักษะในการพูดที่ดีมากขึ้น ซึ่งทำให้ดิฉันมีความมั่นใจในการพูดมากขึ้นกว่าเดิม
วันที่ 27 กันยายน 2588 ที่ฉันได้พัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ โดยการฝึกอ่านออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มักจะออกเสียงผิด จาก http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9580000011521 โดยที่ฉันฝึกอ่านออกเสียงคำที่มักออกเสียงผิดดังนี้  “Fragile” คำนี้จะพบบ่อยในป้ายสติ๊กเกอร์ภาษาอังกฤษที่ติดไว้สำหรับสิ่งของที่ เปราะบางเพื่อระวังของแตก หักพัง  ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะอ่านว่า ฟรา-จิ้ลอันนี้ผิดอย่างแน่นอน การออกเสียงที่ถูกสำหรับศัพท์คำนี้ก็คือ แฟรก-ไจล์  “Sword” ซึ่งคำนี้มักจะพบบ่อยในชื่อหนัง หรือเกมส์ ที่มีการใช้ ดาบตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่อง “Shadow of the Sword" คำว่า “sword” คนไทยหลายคนมักออกเสียงคำศัพท์นี้ผิดว่า สะ-หวอดตรงตัว แต่นั่นเป็นการออกเสียงอ่านที่ผิด ที่ถูกต้องจะต้องออกเสียง “sword” ว่า ซอร์ดสั้นๆ พยางค์เดียว ตัดเสียง “W” ออกไปก็จะได้คำอ่านที่ถูกต้อง  จากการฝึกออกเสียงคำที่มักออกเสียงผิดนั้นสามารถทำให้ดิฉันสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น
วันที่ 28 กันยายน 2558 ดิฉันได้ฝึกพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษโดยการฝึกออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มักออกเสียงผิดบ่อยจาก https://www.gotoknow.org/posts/78049 ซึ่งได้แก่คำว่า chaos (n.) เค-อ็อส ซึ่งคนส่วนใหญ่มักออกเสียงว่า ชา-ออส หรือ ว่า เช้าส์ , effect (n., v.) “อิ-เฟ็คท์ซึ่งคำนี้คนส่วนใหญ่มักออกเสียงว่าเอฟเฟ็คท์” , value (n., v.) “แฟล-ยิ่วซึ่งคนส่วนใหญ่มักออกเสียงผิดไปเป็น แวลู่” , salmon (n.) แซ-เมิน  สำหรับคนที่รักการกินซูชิจะเรียกว่า แซลมอนซึ่งเป็นการออกเสียงที่ผิด, leopard (n.) เล็พ-เพิร์ด ซึ่งมักจะมีการออกเสียงตัวตรงว่า ลีโอ-พ้าร์ดซึ่งจริงๆแล้วคำนี้ไม่ต้องออกเสียงตัว o อ่านสั้นๆง่ายๆว่า เล็พ-เพิร์ด
จากการฝึกออกเสียงคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆก็ทำให้ดิฉันมีทักษะการพูดมากยิ่งขึ้น

                ทักษะการพูดเป็นทักษะที่สำคัญอีกทักษะหนึ่งของการเรียนภาษา ซึ่งในปัจจุบันภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญในการติดต่อสื่อสาร เพื่อให้เข้าใจแนวทางเดียวกัน ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางที่ใช้กันทั่วโลก การเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เพราะทักษะการพูดเป็นทักษะที่สำคัญกับการดำเนินชีวิตประจำวัน ึ่ใช้ในการถ่ายทอดความคิดความเข้าใจและความรู้สึก ให้ผู้ฟังได้รับรู้และเข้าใจจุดมุ่งหมายของการสื่อสาร การพูดเป็นทักษะทางภาษาที่ซับซ้อนและเกิดจากการฝึกฝนเป็นเวลานานไม่ได้เกิดจากความจำและความเข้าใจ โดยควรมุ่งให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กัน ดังนั้นการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้ได้ผลนั้น ผู้เรียนจำเป็นต้องมีการฝึกพูดเพื่อให้การสื่อสารภาษาอังกฤษสัมฤทธิ์ผลเพื่อให้เรียนเกิดความมั่นใจและมีความต้องการพัฒนาทักษะการพูดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น