การศึกษานอกห้องเรียน
( 20th October, 2015)
การฟัง
ทักษะการฟังเป็นทักษะสำคัญที่จำเป็นที่ต้องเรียนรู้ไม่น้อยไปกว่าทักษะการสื่อสารด้านอื่นๆ
เช่นทักษะการพูด การอ่าน และการเขียน ฯลฯ
ทักษะการฟังที่ดีนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต
เนื่องจากเป็นพื้นฐานที่สำคัญของทักษะการเข้าสังคม เพราะจะสามารถลดความเข้าใจผิด
ความขัดแย้งในการปฏิสัมพันธ์กับคน
นอกจากนี้การพัฒนาทักษะการฟังส่งผลต่อการพัฒนาในด้านสติปัญญา
ในแง่ของการใช้ความคิดในการจับประเด็น ฝึกความจำ
และฝึกฝนการจดจ่อแน่วแน่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ต้องการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ที่ผ่านมาพบว่า
คนในสังคมไทยจำนวนมากมองว่าทักษะการฟังเป็นเรื่องที่สามารถพัฒนาขึ้นได้เองตามธรรมชาติจึงไม่ต้องดิ้นรนไปฝึกฝนเท่ากับการสื่อสารด้านอื่นๆ
จึงมักจะละเลยการฝึกฝนทักษะด้านการฟังนี้ให้กับเด็กไปอย่างน่าเสียดาย
เมื่อเทียบกับทักษะในด้านการพูด การอ่าน การเขียน ที่ครูให้น้ำหนักความสำคัญในการฝึกฝนผู้เรียน
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วทักษะการฟังเป็นทักษะที่จำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนเช่นเดียวกับทักษะอื่นๆ
การฟังเป็นทักษะทางภาษาที่ต้องใช้มากว่าทักษะอื่นๆในแต่ละวันเป็นทักษะที่มีความสำคัญยิ่ง
เพราะคนเราเริ่มใช้ภาษาโดยการฟังก่อน การฟังจึงเป็นพื้นฐานที่ก่อให้เกิดการพูด
อ่าน เขียน ตามมา เป็นบ่อเกิดสำคัญของความรู้ การที่จะพัฒนาทักษะการฟังได้
ควรจะฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาทักษะดังกล่าวให้เป็นอุปนิสัยประจำตัว
ดังนั้นดิฉันจึงคิดที่จะพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยการฝึกฟังเพลง ดูภาพยนตร์ต่างประเทศ
และดูข่าวต่างประเทศในระหว่างวันที่ 20 – 26 ตุลาคม 2558
วันที่ 21 ตุลาคม 2558 ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟัง
โดยการฝึกฟังเพลงภาษาอังกฤษจาก http://www.youtube.com/watch?v=fwk7ggA3-bU
โดยดิฉันฟังเพลง One
More Night ของ Maroon 5 โดยเพลงนี้เป็นเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน
ฟังแล้วเพลิดเพลิน โดยในการฟังครั้งแรก
ดิฉันจะฟังเพลงที่เป็นวิดีโอโดยมีเนื้อหาเพลงประกอบอยู่ด้านล่าง โดยดิฉันฟังอยู่ 5
รอบ และตอนสุดท้ายดิฉันจะฟังพร้อมออกเสียงตามไปพร้อมๆกับเพลง 5
รอบ เพื่อเป็นการทบทวนว่าดิฉันจำเนื้อเพลงได้มากแค่ไหน
โดยจากการที่ดิฉันได้ฟังเพลงนั้นดิฉันสามารถจำเนื้อเพลงได้บางส่วนแต่ไม่หมด
โดยดิฉันสามารถแปลได้คร่าวๆว่าเนื้อเพลงของเพลง One More Night ของ Maroon 5 มีเนื้อเกี่ยวกับคู่รักที่ระหองระแหงกัน
จนถึงจุดที่คิดว่าไปต่อกันไม่ได้แล้ว แต่อีกฝ่ายหนึ่ง(ฝ่ายชาย) กลับตัดใจไม่ได้
ตัดใจไม่ขาดในการที่จะปล่อยให้ฝ่ายหญิงที่จะเดินจากไป
เขาอยากอ้อนวอนให้เธออย่าเพิ่งไป อยู่กับเขาต่อได้ไหม
แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดไปขออยู่ด้วยอีกคืนได้ไหม
แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเดินจากไป จากการที่ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ
โดยการฝึกฟังเพลงภาษาอังกฤษทำให้ดิฉันมีทักษะในการฟังที่ดีขึ้น
วันที่
23 ตุลาคม 2558 ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ
โดยการฝึกฟังเพลงภาษาอังกฤษจาก http://www.youtube.com/watch?v=9vcGzJgT8bm โดยดิฉันฟังเพลง Walk Away ของ Dia Frampton โดยเพลงนี้เป็นเพลงที่มีจังหวะสนุก
ไพเราะ ฟังสบาย เนื้อหาในเพลงจะเศร้า เพลิดเพลิน โดยในการฟังครั้งแรก
ดิฉันจะฟังเพลงที่เป็นวิดีโอโดยมีเนื้อหาเพลงประกอบอยู่ด้านล่าง โดยดิฉันฟังอยู่ 5
รอบ และตอนสุดท้ายดิฉันจะฟังพร้อมออกเสียงตามไปพร้อมๆกับเพลง 5
รอบ เพื่อเป็นการทบทวนว่าดิฉันจำเนื้อเพลงได้มากแค่ไหน
โดยดิฉันสามารถแปลเนื้อเพลงได้คร่าวๆของเพลง Walk Away ของ Dia
Frampton มีเนื้อเพลงเกี่ยวกับการมองย้อนไปเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก
วันเวลาก็ได้ผ่านเลยไปแล้วและไม่มีสิ่งใดเหมือนเดิม
เธอเคยเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารัก แววตาเปล่งประกายและมีผมสีทอง
ในค่ำคืนในฤดูร้อนที่ดาวพร่างพราว เธอได้อธิษฐานขอดาวตกลงให้เป็นของขวัญ
เธอเฝ้ารอยผู้ชายจากดินแดนในนิยายที่จะมานำทาง
ที่จะมาพาเธอไปตามมาหาสิ่งที่เธอขาดหาย สิ่งที่ใจเธอเฝ้าหามานานมันอยู่ที่ใด จากการที่ดิฉันได้ฟังเพลง
Walk Away นั้นทำให้ดิฉันได้รู้ว่ายังมีคำศัพท์หลายคำ
ที่ดิฉันยังไม่ทราบความหมายซึ่งเป็นเพราะดิฉันมีคลังคำศัพท์น้อย
และจากการที่ดิฉันได้ฟังเพลงภาษาอังกฤษซ้ำๆหลายรอบก็ทำให้ดิฉันมีทักษะการฟังมากยิ่งขึ้น
วันที่ 25 ตุลาคม 2558 ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยการดูหนังเรื่อง
The passage to India จาก http://www.youtube.com/watch?v=AuoWBPOGH8M
โดยใน 2 ครั้งแรกดิฉันจะดูหนังโดยมี subtitle หลังจากนั้นดิฉันดูไม่มี subtitle 2 รอบ เพื่อเป็นการทดสอบความเข้าใจในตนเองว่าดูหนังแล้วเข้าใจมากแค่ไหน
โดยการที่ได้ดูหนังเรื่อง The passage to India มีเนื้อหาเกี่ยวกับบรรยากาศและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของอินเดีย
ทำให้หลายคนอยากไปสำรวจดินแดนอินเดีย เกี่ยวกับบ้านเมืองแปลกตาและวัฒนธรรมแปลกใหม่
ซึ่งในเรื่องจะมีนางเอกชื่อ อเดลล่า หญิงสาวชาวอังกฤษที่มาเที่ยวประเทศอินเดีย
เธอขอให้เอซิส แพทย์หนุ่มชาวอินเดียที่เป็นเพื่อนของฟิลดิ้ง คู่หมั้นของเธอให้พาไปสำรวจดินแดนอินเดีย
แต่เมื่อไปถึงถ้ำมาราบาร์ ความพิศวงของธรรมชาติได้ทดสอบจิตใจของเพื่อนร่วมทางต่างเชื้อชาติ
และจบลงด้วยการที่ดอกเตอร์เอซิสจับกุม จากการที่ดิฉันได้ดูหนังเรื่อง The
passage to India
ทำให้ดิฉันมีคำศัพท์หลายๆคำที่ดิฉันยังไม่ทราบความหมายนั่นก็เพราะดิฉันมีคลังคำศัพท์ที่ค่อนข้างน้อย
และจากการที่ดิฉันได้ดูหนังก็ทำให้ดิฉันมีการฟังที่ดีเพิ่มขึ้น
สามารถฟังและแปลความหมายของคำศัพท์ได้มากยิ่งขึ้น
วันที่ 26 ตุลาคม 2558 ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยการดูหนังเรื่อง
Animal Farm ของ George Orwell จาก http://www.youtube.com/watch?v=J7yAa6NZ15U
โดยใน 2 ครั้งแรก ดิฉันจะดูหนังโดยมี subtitle หลังจากนั้นดิฉันดูอยู่ 2 รอบ
เพื่อดูว่าตัวเองเข้าใจเนื้อหาในหนังมากน้อยเพียงใด ฟังว่าดิฉันตีความออกหรือไม่
หลังจากนั้นดิฉันดูไม่มี subtitle 2 รอบ
เพื่อเป็นการทดสอบความเข้าใจในตนเองว่าดูหนังแล้วเข้าใจมากน้อยเพียงใด
โดยหนังเรื่อง Animal Farm
จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ในฟาร์มแห่งหนึ่งซึ่งผนึกกำลังขับไล่มนุษย์ออกไปได้สำเร็จ
พวกสัตว์เริ่มการปกครองกันเองภายใต้ชื่อใหม่ที่ได้อย่างภาคภูมิว่า “แอนิมอล ฟาร์ม”
สรรพสัตว์ไม่ตกเป็นทาสของมนุษย์เช่นในอดีต พวกมันยังคงทำงานหนัก
แต่เป็นการทำงานโดยสัตว์เพื่อสัตว์ในการดูแลของ “นโปเลียน”
หมูซึ่งเป็นผู้นำดูแลสัตว์อย่างอาจหาญและเป็นธรรม โดยหนังเรื่อง Animal
Farm
ต้องการแสดงให้เห็นว่าการเข้าสู่อำนาจของชนชั้นปกครองด้วยการล้างอุดมการณ์แบบสังคมนิยมโดยที่แท้จริงแล้วก็ทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง
และพวกพ้องล้วนๆไม่ต่างอะไรกับพวกศักดินาที่ถูกพวกสังคมนิยม
จากการที่ดิฉันได้ดูหนังเรื่อง Animal Farm
ทำให้ดิฉันมีทักษะภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น
ในภาษาอังกฤษนั้นการฟังถือว่าเป็นทักษะแรกที่ผู้เรียนจะต้องฝึกอยู่บ่อยๆเป็นประจำสม่ำเสมอ
แต่ที่ผ่านมากลับพบว่าคนทั่วไปมักจะมักจะมองว่าทักษะการฟังเป็นเรื่องที่สามารถพัฒนาขึ้นได้เองตามธรรมชาติ
ผู้คนส่วนมากไม่ต้องดิ้นรนที่จะพยายามฝึกฝน มักจะละเลยทักษะการฟัง
ทั้งที่ความจริงแล้วทักษะการฟังเป็นทักษะที่จำเป็นต้องเรียนรู้ไม่น้อยไปกว่าทักษะการสื่อเดียวกับทักษะการสื่อสารด้านอื่นๆ
เช่นทักษะการพูด การอ่าน และการเขียน
ทักษะการฟังเป็นทักษะทางภาษาที่ต้องใช้มากกว่าทักษะอื่นๆในแต่ละวันเป็นทักษะที่มีสำคัญ
เพราะคนเราเริ่มต้นการใช้ภาษาโดยการฟังก่อนเป็นอันดับแรก
การฟังเป็นพื้นฐานซึ่งก่อให้เกิดทักษะการอ่าน การพูด และการเขียนให้เกิดต่อจากการฟัง
เพราะฉะนั้นผู้ที่จะเรียนภาษาอังกฤษได้ดีนั้นจะต้องเริ่มต้นจากการฝึกฝนการฟังอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อที่จะพัฒนาทักษะการฟังให้เป็นนิสัยติดตัวไปและไม่ควรละเลยที่จะฝึกทักษะอื่นๆควบคู่กันไปด้วย
เพื่อที่จะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษมีประสิทธิภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น