วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การศึกษานอกห้องเรียน (18 สิงหาคม พ.ศ.2558)




             การศึกษานอกห้องเรียน (18 สิงหาคม พ.ศ.2558)             
                           
การฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษ

ทักษะการพูดภาษาอังกฤษ เป็นทักษะการใช้ภาษาทักษะหนึ่งที่ถูกจัดลำดับเป็นทักษะที่ลองในทักษะการใช้ภาษาอังกฤษทั้ง4ด้าน คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมซึ่งกันละกัน การพูดเป็นการถ่ายทอดความคิด ความเข้าใจและความรู้สึกให้ผู้ฟังได้รับรู้ และเข้าใจจุดมุ่งหมายของผู้พูดในการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศทักษะการพูดนับว่าเป็นทักษะที่สำคัญและจำเป็นเพราะผู้ที่พูดได้ย่อมสามารถฟังผู้อื่นได้เข้าใจและจะช่วยให้การอ่านการเขียนง่ายขึ้นทักษะการพูดภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่ทุกคนมุ่งหวังที่จะให้ประสบความสบความสำเร็จเพราะการเรียนภาษาใดๆก็ตามหากสามารถสื่อสารด้วยการพูดสนทนาในชีวิตประจำวันได้ถือว่าเป็นการใช้ประโยชน์ทางภาษานั้นๆได้อย่างแท้จริงทักษะการพูดเป็นทักษะพื้นฐานในการรับข้อมูลและถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดให้ผู้อื่นรับรู้และเข้าใจผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝนอย่างเพียงพอเพื่อให้สามารถสื่อความหมายได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมก่อนดังนั้นดิฉันจึงคิดจะฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษของตนเองให้พัฒนาดีขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 18-24 สิงหาคม 2558
                             วันที่ 18 สิงหาคม 2558  ดิฉันได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษผ่านเว็ปไซด์ http://thai.langhub.com/beginner-english ดิฉันได้เรียนและฝึกพูดเกี่ยวภาษาอังกฤษสำหรับการท่องเที่ยว โดยบทเรียนนี้นำเสนอตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่างๆในในชีวิตประจำวันบทสนทนาภาษาอังกฤษในร้านอาหาร บทสนทนาภาษาอังกฤษเครื่องบิน บทสนทนาภาษาอังกฤษภายในโรงแรม รวมถึงการออกชื่อประเทศในทวีปต่างโดยดิฉันสามารถฝึกทักษะการฟังและฝึกพูดภาษาได้ด้วยตนเองซึ่งการพูดเกี่ยวกับภาษาอังกฤษสำหรับการท่องเที่ยวนี้ ทำให้ดิฉันมีความมั่นใจในการสนทนาภาษาอังกฤษมากขึ้นเมื่อการเดินทางไปยังสถานการที่ที่มีนักท่อเที่ยว ในวันพรุ่งนี้ดิฉันจะฝึกออกเสียง minimal pair
                         วันที่ 19 สิงหาคม 2558 ดิฉันได้ฝึกออกเสียง minimal pair ผ่านเว็ปไซด์ www.youtube.com โดยเรียนเรื่อง60 minimal pair (English pronunciation practice) ดิฉันได้ฝึกออกเสียง minimal pair เพราะ minimal pairs คือคู่ของคำหรือวลีของคำหรือวลีในภาษาต่างด้านองค์ประกอบคำเพียงลักษณะเดียวโดยความรู้เรื่อง minimal pair ช่วยให้ดิฉันได้ออกเสียงหรือพยัญชนะหรือสระภาษาอังกฤษได้ถูกต้องทำให้ดิฉันได้เข้าใจเวลาฟังภาษาต่างประเทศ แยกได้ว่าที่เราได้ยินเสียงอะไร ความหมายคืออะไร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อดิฉันสึกหรับการฝึกพูดภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่างๆและเป็นการเตรียมความพร้อมกับตนเอง ในวันพรุ่งนี้ดิฉันจะฝึกออกเสียงต่ำ

วันที่ 20สิงหาคม 2558 ดิฉันได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการออกเสียงสูง-ต่ำโดยดิฉันฝึกผ่าน www.youtube.com เรื่อง Learning English-การออกเสียงสูงต่ำ( Intonation) ในภาษาอังกฤษ โดยวีดีโอนี้ได้สอนเกี่ยวกับ Intonation ซึ่งมี2แบบคือ Rising intonation และ falling   intonation โดย falling   intonation เป็นคำที่ลงเสียงต่ำที่ใช้กับประโยคที่มีใจความสมบูรณ์  ใช้สำหรับคำลงท้ายประโยค wh- question และใช้กับประโยคคำสั่ง เละ rising intonation ใช้ลงท้ายประโยค yes no question ใช้กับประโยคบอกเล่าธรรมดา ใช้แสงดงการทักทาย ซึ่งทำให้ดิฉันได้รับความรู้เรื่องการออกเสียงสูงต่ำเพิ่มต่ำเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ดิฉันจะฝึกการออกเสียงคำลงท้ายด้วย S
                            วันที่ 21 สิงหาคม 2558 ดิฉันได้เรียนรู้การออกเสียงคำลงท้ายด้วย S แต่ออกเสียงต่างเป็น s,z,I,z จาก www.youtubecom เรื่องเก่งภาษาอังกฤษเรียนรู้การออกเสียงคำลงท้ายด้วย S (แต่ออกเสียงต่างเป็น s.z.iz ) โดยในวีดีโอได้สอนเกี่ยวกับคำภาษาอังกฤษเวลาเราเพิ่ม- sles ตอนท้ายจะมีการออกเสียงเป็น3แบบคือ  a/s/,/z/,/iz/ ถ้าคำลงท้ายด้วยตัวที่เสียงไม่ต้องเช่น /p/,/t/,/k/เป็นต้น ยกเว้น/s/./sh/,/ch/เมื่อเติมs จะออกเสียง/s/ ถ้าคำที่ลงท้ายด้วยเสียงก้องเช่น/b/,/d/,/g/,/v/,/m/,/n/ยกเว้น/z/,/j/หรือลงท้ายด้วยสระเมื่อเติมs จะออกเสียง/z/ และคำลงท้ายด้วย/s/,/z/,/s/,/ch/,/j/เมื่อเติมesจะออกเสียง/iz/จากการดูวีดีโอนี้ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้และได้ฝึกเกี่ยวการออกสียงคำที่ลงท้ายด้วยทำให้ดิฉันมีทักษะพูดเพิ่มมากขึ้น ในวันพรุ่งนี้ดิฉันจะฝึกเรื่องการออกเสียงคำที่ลงท้ายด้วย ed
วันที่ 22 สิงหาคม 2558 ดิฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับการออกเสียงคำที่ลงท้ายด้วย ed จาก www.youtube.com เรื่อง คำที่ลงท้ายด้วย ed ออกเสียงยังไงกันแน่ โดยในวีดีโอนี้จะฝึกเกี่ยวกับการออกเสียงคำกิริยาเมื่อเพิ่มเติม –ed ท้ายคำโดยวีดีโออธิบายว่าคำกิริยาที่ลงท้ายด้วยเสียงก้อง (b.g.n.j.l.m.n.r.v.w.y.z )เมื่อเติมใ ed ออกเสียงเป็น ‘’’’ คำกิริยาลงท้ายด้วยเสียงไม่ก้อง(c.f.k.p.s.x.ch.sh.)เมื่อเติม ed จะออกเสียงเป็น n และคำกิริยาที่ลงท้ายด้วยTหรือ D เมื่อเติม ed ออกเสียงเป็น ถิดหรือดิด จากการดูวีดีโอนี้ทักษะการพูดเพิ่มเติมจากเดิมยิ่งขึ้นและดิฉันสามารถนำความรู้เรื่องนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย ในวันพรุ่งนี้ดิฉันจะเรียนเรื่องการออกเสียง th
วันที่ 23 สิงหาคม 2558 ดิฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับการออกเสียง th จาก  www.youtube.com เรื่องการออกเสียง  th แบบชัดเวอร์ โดยวีดีโอนี้จะฝึกเกี่ยวกับออกเสียง th ให้ถูกต้อง ซึ่งการออกเสียง th คนทั่วไปมักจะออกเสียงผิดบ่อย เมื่อนำมารวมเป็นคำ โดยในวิดีโอนี้จะสอนและฝึกให้เราออกเสียง th ให้ถูกต้อง โดยในวิดีโอได้บอกว่า th เป็นคำที่ใช้อักษร t และ h เสียงตัว t ออกเสียง ทฮ หรือ ตฮ เสียงตัว h ออกเสียงคือ ฮอ หรือ ฮะ รวมกันเป็นเสียง th ออกเสียง ทฮ หรือ ตฮ; ทึฮ หรือ ตืฮ เป็นเสียงที่ลิ้นปิดลมออกจากปาก th- อยู่ข้างหน้าคำ ทฮ เป็นเสียงหนัก แต่ th- อยู่ท้ายคำ ออกเสียง ทึฮ เสียงปิดลมกั้นลิ้นกันลมออกมาอยู่ติดกัน จะต้องออกเสียงพร้อมกัน โดยที่จะนำลิ้นมาอยู่ระหว่างปลายฟันหน้าและบนล่าง และให้ลมที่จะออกจากลำคอออกมาพร้อมกันดึงปลายลิ้นเข้า จากการดูวิดีโอนี้ทำให้ดิฉันมีความรู้เรื่องการออกเสียง th เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ในวันพรุ่งนี้ดิฉันจะเรียนเรื่องการออกเสียง sh และ ch
                            วันที่ 24 สิงหาคม 2558 ดิฉันได้ฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ผิดบ่อยเมื่อนำมารวมเป็นคำ เช่นการออกเสียง sh และ ch จาก www.Thaienglish.com/demo/alphabets-ah-ch.php โดยเว็บไซต์นี้จะสอนเรื่องหลักการออกเสียง sh และ ch โดยมีเนื้อหาคือ การออกเสียง sh และ ch จะเป็นเสียงออกมาจากลำคอ ฟันหน้าบนและล่างกับริมฝีปาก เช่น sh (ชัช์-ยาว สระอี สระอู) เสียงยาว กับ ch (ชช์-สั้น สระอี สระอุ) ริมฝีปากอูม (เสียงสั้น) ตัวอย่าง sheep กับ cheep มีเสียงคล้ายกันแต่ความหมายต่างกัน โดนในเว็บไชต์นี้ยังมีการฝึกหารออกเสียง sh และ ch โดยจะมีตัวอย่างให้ฟังและออกเสียงตาม จากการดูวิดีโอนี้ทำให้ดิฉันได้มีความรู้และมีทักษะการออกเสียงที่ดียิ่งขึ้น โดยดิฉันจะฝึกทักษะการพูดต่อไปเรื่อยๆเพื่อเป็นการพัฒนาตนเองให้มีทักษะการพูดที่ดี

                      การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่สำคัญ มนุษย์สามารถรับข้อมูล ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดให้ผู้อื่นรับรู้และเข้าใจได้นั้นต่างก็ต้องอาศัยทักษะการพูดทั้งนั้น การพูดเป็นวิธีการส่วนมากที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันมากกว่าการใช้วิธีอื่น การพูดมีความสำคัญเพราะการพูดเป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญในการเรียนภาษาต่างประเทศ ผู้ที่พูดได้ย่อมสามารถฟังคนอื่นเข้าใจและช่วยให้การเขียนมีความง่ายขึ้น การพัฒนาทักษะการพูดนั้นผู้เรียนต้องได้รับการฝึกฝนอย่างเพียงพอเพื่อให้สามารถสื่อความหมายได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ครูต้องจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมและหลากหลายให้แก่ผู้เรียน ผู้เรียนควรมีทัศนคติเชิงบวกแก่การเรียนภาษา เมื่อผู้เรียนมีทักษะการพูดที่ดี ก็จะทำให้สามารถนำความรู้และทักษะการพูดที่มีอยู่ไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆได้อย่างถูกต้อง การพัฒนาทักษะการพูดเป็นการพัฒนาที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น