การเรียนรู้นอกห้องเรียน (15th September, 2015)
การฝึกทักษะการเขียน
ประเทศไทยได้มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศมายาวนาน
รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาของการพัฒนาความสามารถทางภาษาของคนไทย จึงพยายามที่จะปรับปรุงให้มีการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความสามารถทางภาษาในระดับที่สามารถติดต่อสื่อสารได้
แต่ผลการเรียนภาษาอังกฤษของผู้เรียนในระดับต่าง ๆ ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทักษะฟัง
- พูด การสื่อสารในชีวิตประจำวันนั้นถือว่า การฟังเป็นทักษะการรับสารที่สำคัญและใช้กันมาก
ซึ่งทักษะพื้นฐานในการเรียนรู้ทักษะอื่น ๆ และถือเป็นทักษะแรกที่ต้องมีการสอน
เพราะผู้พูดต้องฟังให้เข้าใจก่อน จึงจะมีความสามารถในการพูด ทักษะทางภาษาของผู้เรียนภาษาที่สอง
คือ อันดับแรกทักษะการฟัง อันดับที่สองทักษะการพูด
หลังจากนั้นก็เป็นทักษะการอ่านและการเขียน การฟังภาษาอังกฤษถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญที่สุด
และพัฒนายากที่สุด ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญของคนไทยส่วนใหญ่
รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมดของการเรียนภาษาอังกฤษ ของคนไทย ดิฉันก็มีปัญหาเรื่องทักษะการฟังเช่นกัน
ดังนั้นดิฉันจึงคิดที่จะพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ โดยจะฝึกตั้งแต่วันที่ 15 – 21 กันยายน 2558
วันที่ 15 กันยายน 2558 ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ
โดยการฝึกฟังเพลงภาษาอังกฤษจากhttps://www.youtube.com/watch?v=L0MK7qz13bU โดยดิฉันเลือกฟังเพลง Let It Go ของ Demi Lovatoโดยเพลงนี้เป็นเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน
ฟังแล้วเพลิดเพลิน
โดยในการฟังครั้งแรกดิฉันจะฟังเพลงจากเพลงที่เป็นวิดีโอโดยมีเนื้อเพลงประกอบอยู่ด้านล่าง โดยดิฉันจะฝึกฟังอยู่ 3 รอบ
หลังจากนั้นดิฉันจะฟังพร้อมออกเสียงตามไปพร้อมกับเพลง 3 รอบ
และสุดท้ายดิฉันจะฟังเพลงเป็นแบบ MP3 โดยไม่มีเนื้อเพลงประกอบอยู่
3 รอบเพื่อเป็นการทบทวนว่าดิฉันจำเนื้อเพลงได้มากแค่ไหน โดยดิฉันนั้นก็สามารถจำเนื้อเพลงได้บางส่วนแต่ก็ไม่หมด
จากการที่ดิฉันได้ฟังเพลง Let It Go
ดิฉันสามารถแปลได้คร่าวๆว่า เนื้อหาในเพลง Let It Go นี้
เป็นเพลงเกี่ยวกับ ผู้หญิงคนหนึ่งต้องการลืมสิ่งๆหนึ่งไป
โดยปล่อยทิ้งไป ไม่ต้องทนหิมะมากมายส่องประกายสีขาวบนภูเขาในยามกลางคืน ไม่มีรอยเท้าแม้แต่รอยเดียวปรากฏให้เห็น ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นราชินีในอาณาจักรอันโดดเดี่ยวนี้ กระแสลมกรรโชกแรงดั่งพายุโหมกระหน่ำอยู่ภายใน เธอทนรับมันไว้ไม่ไหวอีกแล้ว แม้แต่สวรรค์ยังเห็นว่าเธอได้พยายามแล้วนะ จากการที่ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ
โดยการฝึกฟังเพลงภาษาอังกฤษทำให้ดิฉันได้มีทักษะในการฟังที่ดียิ่งขึ้น
วันที่ 17 กันยายน 2558 ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ
โดยการฝึกฟังข่าวจาก
ของวันที่ 17 กันยายน 2558 โดยในการฝึกฟังครั้งแรกดิฉันจะฝึกโดยไม่มี
Script โดยดิฉันฝึกฟังอยู่ 5รอบ
ต่อมาดิฉันก็ได้ฝึกฟังโดยมี Script 5 รอบ
โดยดิฉันนั้นสามารถแปลและจับใจความสำคัญของข่าวได้ว่าข่าวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ อัตราการตายของคนที่เป็นโรคมาลาเรียซึ่งเห็นได้ว่าลดลงถึง60%
นับตั้งแต่ปี 2000เป็นต้นมา โดยเนื้อเรื่องในข่าวจะเป็นรายงานโดยองค์การอนามัยโลก
(WHO) และการกุศลยูนิเซฟได้กล่าวว่าอัตราการตายของคนที่เป็นโรคมาลาเรียได้ลดลงถึง60% ทั่วโลกตั้งแต่ปี 2000 ในการฟังครั้งแรกดิฉันฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องว่าเนื้อหาในข่าวนี้เกี่ยวกับอะไร
เพราะคำศัพท์บางคำเป็นคำที่ดิฉันไม่ทราบความหมาย ซึ่งเป็นความยากลำบากในการฟังสำหรับดิฉัน
เพราะดิฉันมีคลังคำศัพท์ไม่มาพอก จากการที่ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ
โดยการฝึกฟังภาษาอังกฤษทำให้ดิฉันได้มีทักษะในการฟังที่ดียิ่งขึ้นและก็ทำให้ดิฉันรู้ว่าดิฉันนั้นยังต้องปรับปรุงทักษะการฟังให้ดีขึ้นกว่านี้
วันที่ 19 กันยายน 2558 ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ
โดยการฝึกฟังเพลงภาษาอังกฤษจาก https://www.youtube.com/watch?v=GKn3GGCbh_0&spfreload=10 โดยดิฉันเลือกที่จะฟังเพลง Take me to your
heart โดยเพลงนี้จะเป็นเพลงช้า เนื้อเพลงฟังไม่ยาก
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฝึกทักษะการฟัง
โดยในการฟังครั้งแรกดิฉันจะฟังเพลงจากเพลงที่เป็นวิดีโอที่มีเนื้อเพลงประกอบอยู่ด้านล่าง โดยดิฉันจะฝึกฟังอยู่ 3 รอบ
หลังจากนั้นดิฉันจะฟังไปพร้อมออกเสียงตามไปพร้อมกับเพลง 3 รอบ
และสุดท้ายดิฉันจะฟังเพลงเป็นแบบ MP3 โดยไม่มีเนื้อเพลงประกอบอยู่
3 รอบเพื่อเป็นการทบทวนว่าดิฉันจำเนื้อเพลงได้มากแค่ไหน จากการที่ดิฉันได้ฟังเพลงดิฉันสามารถแปลเนื้อหาของเพลง
Take me to your heart ได้ว่าเป็นเพลงที่เกี่ยวกับ ผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการการนำพาหัวใจของเขาไปยังหัวใจของผู้หญิงคนหนึ่ง
จงพาเขาเข้าไปในจิตวิญญาณของเธอ ได้โปรดยื่นมือของเธอมาให้เขาเถอะ
ก่อนที่เขาจะแก่ชรา
จากการที่ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ
โดยการฝึกฟังเพลงภาษาอังกฤษทำให้ดิฉันได้มีความคุ้นชินกับภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น
และทำให้ดิฉันได้มีทักษะในการฟังที่เพิ่มขึ้น
วันที่20
กันยายน 2558 ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ
โดยการฝึกฟังเรื่องสั้นภาษาอังกฤษจาก http://www.eslfast.com/begin3/b3/b3004.htm
เรื่อง Lemonade on a Hot Day
ในการฟังครั้งแรกดิฉันฟังไม่ค่อยเข้าใจและจับใจความไม่ค่อยได้ โดยดิฉันฝึกฟังอยู่ 5 รอบจึงจะค่อยๆเริ่มฟังเข้าใจและเริ่มแปลออกว่าเรื่องสั้นนั้นมีใจความเกี่ยวกับอะไร โดยเนื้อหาในเรื่องสั้นเรื่อง Lemonade
on a Hot Day จะมีใจความสำคัญเกี่ยวกับในวันที่อากาศร้อน
เป็นช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ เจนได้กระหายน้ำ เธอเดินไปในห้องครัว
เธอเปิดตู้เย็นแล้วไม่เจอเครื่องดื่มอะไรในตู้เย็น เจนจึงได้คิดที่จะทำน้ำมะนาว
เธอจึงคว้ามะนาวและเหยือกน้ำมา เธอบีบน้ำมะนาวลงไปในเหยือกที่มีน้ำและหลังจากนั้นก็ใส่น้ำตาลตามลงไป จากการที่ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยการฝึกฟังเรื่องสั้นนั้นสามารถทำให้ดิฉันนั้นมีทักษะการฟังภาษาอังกฤษที่ดีขึ้นโดยดิฉันนั้นสามารถฟังได้เข้าใจว่าเนื้อเรื่องในเรื่องสั้นนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใดซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าดิฉันนั้นเริ่มมีพัฒนาการเกี่ยวกับการฟังภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น
วันที่21 กันยายน 2558 ดิฉันได้พัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ
โดยการฝึกฟังภาษาอังกฤษจากการดูหนังจาก https://www.youtube.com/watch?v=O5LjQngMiuMเรื่อง BONES 9 Temporada 17 Episodio ดิฉันเลือกที่จะดูหนังเรื่องนี้เพราะหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สนุก
เป็นหนังเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมซึ่งเป็นหนังแนวที่ดิฉันชอบ ในครั้งแรกดิฉันจะดูหนังโดยมี
subtitle อยู่ 2 รอบ
หลังจากนั้นดิฉันจึงดูโดยไม่มี subtitle 2 รอบ
โดยเนื้อหาในหนังเรื่อง BONES 9 Temporada 17 Episodio จะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับดร.แบรนแนน ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงกระดูก
เพียงแค่เห็นโครงกระดูกก็สามารถระบุได้ว่าเป็นเพศชายหรือว่าหญิง ช่วงอายุเท่าใดถึงเท่าใด วันหนึ่ง ดร.แบรนแนน
ได้เข้าร่วมทีมสอบสวนคดีฆาตกรรมต่างๆกับเจ้าหน้าที่บูธซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของทาง FBI โดยเจ้าหน้าที่บูธนั้น
ต้องการความสามารถของ ดร.แบรนแนน มาช่วยในการวิเคราะห์ เพศ วัย
ช่วงเวลาการเสียชีวิต สาเหตุการเสียชีวิต รวมไปถึงระบุข้อมูลคร่าวๆ
ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร เพื่อให้ทาง FBI นั้นสามารถหาได้ว่ามีใครบ้างที่น่าจะเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมนั้นๆ
จากการที่ได้ดูหนังนั้นทำให้ดิฉันมีทักษะการฟังที่ดีมากยิ่งขึ้น
การฟังเป็นทักษะรับสารที่สำคัญและใช้กันมาก การฟังเป็นทักษะพื้นฐานในการเรียนรู้ทักษะอื่น
ๆ การฟังจึงเป็นทักษะแรกที่ต้องมีการสอน เพราะผู้พูดต้องฟังให้เข้าใจก่อน
จึงจะมีความสามารถในการพูด ทักษะทางภาษาของผู้เรียนภาษาที่สอง
คือ อันดับแรกทักษะการฟัง อันดับที่สองคือทักษะการพูด
หลังจากนั้นก็เป็นทักษะการอ่านและการเขียน การฟังภาษาอังกฤษถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญที่สุด
และพัฒนายากที่สุดซึ่งเป็นคำพูดที่มักจะเจอบ่อยๆสำหรับคนที่อยากจะ
พูดภาษาอังกฤษได้ดี ทั้งๆที่เรียนภาษาอังกฤษกันมาแล้วมากมาย
บางคนเรียนมาแล้วมากกว่า10 ปี
บางคนเรียนภาษาอังกฤษมากับสถาบันสอนภาษาอังกฤษ หลายสถาบัน
แต่ก็ยังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ซักที การพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ จึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมากที่สุด ที่ต้องได้รับการพัฒนาก่อนเป็นอันดับแรก การฟังมากๆ ซ้ำๆ นอกจากจะทำให้ทักษะการฟังภาษาอังกฤษดีขึ้นแล้ว ยังทำให้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยได้ด้วย หากผู้เรียนภาษาอังกฤษมีความตั้งใจที่จะฝึกฝนทักษะการฟังภาษาอังกฤษ
ฝึกฝนเป็นประจำและต่อเนื่องก็จะทำให้การฟังภาษาอังกฤษนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายขึ้นมาได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น