บทที่ 1
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการแปล
ความสำคัญของการแปล
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่มีการใช้กันทั่วโลกมากกว่าภาษาอื่นๆ ในยุคปัจจุบันมีการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อเป็นการสื่อสารเพิ่มมากขึ้น
จากการที่การคมนาคมสื่อสารเจริญรุดหน้าไปอย่างมาก คนต่างชาติต่างภาษาในโลกได้มีการติดต่อกันมากขึ้นทุกวัน
การแปลจึงมีความสำคัญมากขึ้นจากการที่ประเทศไทยได้มีการติดต่อสัมพันธ์กับต่างประเทศ โดยที่ประเทศต่างๆล้วนมีภาษาที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความจำเป็นในการที่จะต้องมีการถ่ายทอดความจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่ง
เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศที่ใช้ภาษาต่างกันสามารถทำความเข้าใจกันได้
การแปลในประเทศไทย
การแปลในประเทศไทยเริ่มมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชส่งโกษาไปเฝ้าพระเจ้าหลุยแห่งประเทศฝรั่งเศส
จึงมีการฝึกนักแปลประจำราชสำนัก มีการแปลเอกสารต่างๆในการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และมีการสอนภาษาอังกฤษในราชสำนัก
การแปลทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ผู้แปลจะต้องเป็นกลุ่มของผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและมีนักภาษาด้วย
ผู้แปลจะต้องติดตาทวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตลอดเวลา ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงประโยชน์การใช้ให้คุ้มค่ากับเวลาที่จะใช้ในการแปลด้วย
การสอนแปลในระดับมหาวิทยาลัย
การสอนแปลในระดับมหาวิทยาลัย
เป็นการสอนไวยากรณ์และโครงสร้างของภาษา การใช้ภาษา รวมทั้งการอ่านเพื่อความเข้าใจ
การแปลคืออะไร
การแปลคือการถ่ายทอดความคิดจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่ง
โดยให้มีใจความครบถ้วนสมบูรณ์ตรงตามต้นฉบับทุกประการ
ไม่มีการตัดต่อหรือแต่งเติมที่ไม่จำเป็นใดๆทั้งสิ้น
อีกทั้งควรรักษาให้ได้รูปแบบตรงตามตันฉบับเดิมอีกด้วยหากทำได้
คุณสมบัติของผู้แปล
1.เป็นผู้ที่มีความรู้ในภาษาต้นฉบับและภาษาที่ใช้แปลดี
2.เป็นผู้ที่ชอบค้นคว้าหาความรู้ในวิชาการแขนงอื่นๆ
นอกเหนือจากด้านภาษาในการแปลเรื่องที่ผู้แปลไม่มีความรู้
3.เป็นผู้มีวิจารณญาณในการแปล มีพื้นฐานทางด้านไวยากรณ์
และโครงสร้างของภาษารวมทั้งการใช้ภาษา
4.เป็นผู้มีใจกว้างพอที่จะรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
5.เป็นผู้สามารถอุทิศเวลาให้การแปลได้อย่างแท้จริ
ง
วัตถุประสงค์ของการสอนแปล
1.เพื่อผลิตนักแปลที่มีคุณภาพ
2.การสอนให้ผู้แปล
สามารถจับใจความสำคัญได้ และสามารถถ่ายทอดความเข้าใจนั้นออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรได้
3.ผู้สอนแปลต้องหาทางเร่งเร้าให้ผู้เรียนได้อ่านอย่างกว้างขวาง
มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้มีการค้นคว้าเพื่อหาทางแก้ปัญหาด้วยตนเอง
4.ให้ผู้เรียนแปลได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักแปลอาชีพหรือผู้ใช้บริการการแปล
บทบาทของการแปล
ผู้รับสาร (receive)
ไม่ได้รับสารจากผู้ส่งสารคนแรกโดยตรง
แต่รับสารจากผู้แปลอีกทอดหนึ่งมีผู้แปลเป็นตัวกลางระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับ
ผู้แปลในฐานะตัวกลางในการส่งสารจึงมีบทบาทสำคัญมาก
ลักษณะของงานแปลที่ดี
ลักษณะของงานแปลที่ดี
ควรจะมีเนื้อหาข้อเท็จจริงตรงตามต้นฉบับใช้ภาษาที่ชัดเจนกระชับความ
ใช้รูปประโยคสั้นๆ แสดงความคิดเห็นได้แจ่มแจ้ง ใช้ภาษาเปรียบเทียบได้เหมาะสม
และรักษาแบบหรือสไตล์ของผู้แต่งงานต้นฉบับไว้ และมีการปรับแต่งถ้อยคำหรือสำนวนให้เข้ากับสภาพ
แต่ในกรณีที่ภาษาทั้งสองมีโครงสร้างหรือลักษณะที่แตกต่างกัน
การรักษารูปแบบหรือโครงสร้างของภาษาต้นฉบับก็อาจจะทำให้ผู้รับสารไม่ยอมรับ
การให้ความหมายในการแปล
การส่งสารโดยวิธีการแปลเป็นภาษาแม่ของตน
การให้ความหมายมี 2 ประการ
คือ การแปลที่ใช้รูปประโยคต่างกันแต่มีความหมายอย่างเดียวกัน และการตีความหมายบริบทของข้อความต่างๆ
การใช้ปัจจุบันกาล
ให้พิจารณาถึงรูปแบบของกาล 2 กาล
คือ ปัจจุบันกาล (Simple Present) และอนาคตกาล (Progressive Present) การใช้ปัจจุบันกาล(The Simple present) ในการแปลนั้น ผู้แปลจะต้องเทียบเคียงกับโครงสร้างภาษาไทย
ส่วนที่เหมือนและส่วนที่ต่าง
การแปลอังกฤษเป็นไทย
ต้องคำนึงถึงความหมาย 7
ประการดังนี้
1.อนาคตกาล (The progressive
Present)
การแปลที่ต้องเปรียบเทียบระหว่างปัจจุบันกาล (Simple Present) และอนาคตกาล (Progressive
Present) การกระทำในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับปัจจุบัน
(now) การให้ปัจจุบันโดยมีคำว่า always หรือ often
2.โครงสร้างประโยคอื่นๆ
ในการแปลของกาลในภาษาอังกฤษ รวมทั้งโครงสร้างของไวยากรณ์
3.ศัพท์เฉพาะ (Lexis) การแปลความหมายตามศัพท์จะ
แต่ถ้าเป็นเรื่องของโครงสร้าง จะมีศัพท์ที่แปลตามคำแล้วไม่ได้ใกล้เคียงกัน
4.ตีความทำนาย (Interpretation
of the Facts-a prediction) สิ่งที่สำคัญก็คือ การแปลข้ามภาษาจะต้องคำนึงถึงความหมายทั่วไปๆมากกว่าการให้คำเหมือน
หรือให้ความหมายเหมือนกับในรูปประโยคที่ต่างกันในภาษา เดียวกัน หลักของความต่างที่ใช้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างและระบบของภาษา
การใช้ ศัพท์เฉพาะ (Lexis)
ขึ้นอยู่กับประเด็นของข้อความ
การแปลกับการตีความจากบริบท
ความใกล้เคียง (Context) และความคิดรวบยอด (Concept)
ให้ดูสถานภาพเป็นอยู่ของข้อความ ความหมายจากรอบข้างหรือบริบทของข้อความ (context) เป็นรูปนามธรรม
ดังนั้นผู้แปลจึงต้องทำให้นามธรรมนั้นออกมาเป็นความคิดรวบยอดจากรูปภาพและสามารถสรุปความหมายออกมา
การวิเคราะห์ความหมายของภาษา
สิ่งที่จะต้องนำมาใช้ในการวิเคราะห์ความหมายคือ
องค์ประกอบของความหมาย
1.คำศัพท์ คือคำที่ใช้ตกลงยอมรับกันของผู้ใช้ภาษา
ความหมายของคำแต่ละคำจะเปลี่ยนแปลงไปได้ในบริบทต่างๆตามที่คำนั้นปรากฏอยู่
2.ไวยากรณ์ หมายถึงแบบแผนการจัดเรียงคำในภาษา
เพื่อให้เป็นประโยคที่มีความหมาย
3.เสียง ในภาษาจะมีเสียงจำนวนมากซึ่งเป็นเสียงที่มีความหมาย เช่น เสียงสระ
เสียงพยัญชนะ เป็นการนำเสียงเหล่านั้นมารวมเข้ากันอย่างเป็นระบบ
จะทำให้เกิดหน่วยที่มีความหมาย เรียกว่า คำ หรือ คำศัพท์
ความหมายและรูปแบบ
ความหมายและรูปแบบมีความสัมพันธ์กันดังนี้
1.ในแต่ละภาษา ความหมายหนึ่งอาจจะแสดงออกได้หลายรูปแบบ เช่น ในรูปประโยคที่ต่างกัน
หรือใช้คำที่ต่างกัน
2.รูปแบบเดียวกันอาจจะมีหลายความหมาย
ความหมายของรูปแบบแต่ละรูปแบบนั้นไม่แน่นอนตายตัวเสมอไป
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทเป็นสำคัญ
ประเภทของความหมาย
นักภาษาศาสตร์ได้กำหนดประเภทของความหมายไว้
4 ประเภทด้วยกัน
1.ความหมายอ้างอิง (referential meaning)
หรือความหมายโดยตรง (denotative meaning)
ความหมายอ้างอิงหมายถึงความหมายที่กล่าวอ้างโดยตรงถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ทั้งที่เป็นรูปธรรม และนามธรรม หรือความคิด มโนภาพ
2.ความหมายแปล(Connotative meaning) หมายถึง
ความรู้สึกทางอารมณ์ของผู้อ่าน ผู้ฟัง ซึ่งอาจจะเป็นความหมายในทางบวก
หรือทางลบก็ได้ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของภาษาและภูมิหลังของ
3.ความหมายตามบริบท (Contextual
meaning) รูปแบบหนึ่งๆของภาษาอาจจะมีความหมายได้หลายความหมาย
ต้องพิจารณาจากบริบทที่แวดล้อมคำนั้นทั้งหมด จึงจะรู้ความหมายที่ผู้เขียนต้องการสื่อ
4.ความหมายเชิงอุปมา (figurative meaning) เป็นความหมายที่เกิดจากการเปรียบเทียบทั้งการเปรียบเทียบแบบเปิดเผย(simile)
และการเปรียบเทียบโดยนัย (metaphor)
การเลือกบทแปล
เลือกบทแปลตามวัตถุประสงค์ของการแปล
โดยคำนึงถึงการทำให้ผู้เรียนได้มีโอกาสตระหนักถึงความบกพร่องต่างๆของตนในการแปล
และให้ผู้เรียนได้ทั้งความรู้ด้านทักษะทางภาษา และเนื้อหาไป
เรื่องที่จะแปล
เรื่องที่จะเลือกแปลมีหลายสาขา จะต้องเลือกว่าจะแปลสาขาใด
ซึ่งจะทำให้คนมีความรู้ทันสมัย การแปลจึงควรเลือกหนังสือที่เป็นหลักวิชาที่ยอมรับกันในสาขาวิชา
ผู้แปลแต่ละสาขาวิชาจะต้องฝึกฝนภาษาอังกฤษในสาขาวิชาของตนเองด้วย
การเลือกหนังสือที่จะแปล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น